การคอร์รัปชันทางการเมืองในประเทศไทย พ.ศ. 2540-2560

  • จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ มหาวิทยาลัยรังสิต
Keywords: คอร์รัปชันทางการเมือง, พรรคการเมือง, ประเทศไทย

Abstract

          บทความนี้มีวัตถุประสงค์สองประการ คือ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยและเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการคอร์รัปชันทางการเมืองในประเทศไทย ช่วง พ.ศ.2540-2560  และ 2) เพื่อศึกษารูปแบบและกระบวนการคอร์รัปชันทางการเมืองในประเทศไทย ช่วง พ.ศ.2540-2560 โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาจากเอกสาร และการสัมภาษณ์เชิงลึกจากนักการเมือง 27 คน จาก 6 พรรคการเมือง แล้วนำข้อมูลนั้นมาสังเคราะห์เนื้อหาตามวัตถุประสงค์ และแสดงผลในรูปของการบรรยายพรรณนาความ

          ผลของการศึกษาพบว่า  1) ปัจจัยและเงื่อนไขที่ทำให้คอร์รัปชันทางการเมืองในประเทศไทย พ.ศ.2540-2560  นั้น ประการแรก เกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 และ 2550 ต้องการให้ได้นายกรัฐมนตรีมีความเข้มแข็งและเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่สองพรรค ประการที่สอง หัวหน้าพรรคการเมืองมีอำนาจเบ็ดเสร็จและใช้อำนาจเหนืออุดมการณ์ของพรรค ประการที่สาม ในการเลือกตั้ง พรรคการเมืองต้องใช้เงินจำนวนมากในการรณรงค์หาเสียง  2) รูปแบบและกระบวนคอร์รัปชันทางการเมืองในประเทศไทย พ.ศ.2540-2560 มีสองรูปแบบ คือ การคอร์รัปชันทางการเมืองแบบดั้งเดิม และการคอร์รัปชันทางการเมืองสมัยใหม่ การศึกษานี้ยังพบอีกว่า ผลจากการคอร์รัปชันทางการเมืองได้ก่อให้เกิดต้นทุนทางสังคมขึ้น ซึ่งเรียกว่า การคอร์รัปชันทางสังคม  ส่วนกระบวนการคอร์รัปชันทางการเมือง มีดังนี้ ประการแรก นักการเมืองได้ใช้กลไกของรัฐสภาสร้างระบบอุปถัมภ์ และคอร์รัปชันทางการเมือง ด้วยการซื้อนักการเมืองและพรรคการเมืองเพื่อให้รัฐบาลมีเสียงข้างมากในรัฐสภา ประการที่สอง นักการเมืองในฐานะฝ่ายบริหาร ใช้อำนาจไปควบคุมฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ รวมถึงองค์กรอิสระต่าง ๆ ประการที่สาม นักการเมืองทำการเมืองผ่านโครงการประชานิยมต่าง ๆ ซึ่งเป็นการสร้างระบบอุปถัมภ์และสร้างความจงรักภักดีทางการเมืองจากประชาชนที่ยากจนและด้อยการศึกษา สำหรับมุมมองของนักการเมือง 24 คน เห็นว่า การยุบพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน รวมทั้งจำคุกอดีต 3 กกต.นั้นถือเป็นการคอร์รัปชันทางการเมือง ส่วนนักการเมืองอีก 3 คนเห็นว่าเป็นเรื่องการเมืองและการกลั่นแกล้งทางการเมือง

          ข้อเสนอแนะ  1) ควรส่งเสริมกลไกภาคประชาสังคมเพื่อกดดันและปฏิเสธการกลับเข้ามาสู่การเมืองของนักการเมืองและพรรคการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ  2) ควรบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นและจริงจังกับนักการเมือง หรือพรรคการเมืองที่กระทำหรือมีส่วนร่วมกระทำการคอร์รัปชันทางการเมือง

Published
2022-03-16