การประเมินผลนโยบาย/แผนพัฒนากรุงเทพมหานครสู่เมืองน่าอยู่ : แผนพัฒนาสิ่งแวดล้อม ในช่วงระยะเวลา พ.ศ. 2548 - 2558

  • เปรมณัช โภชนสมบูรณ์ นักวิจัย หรือ นักศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต
##plugins.pubIds.doi.readerDisplayName##: https://doi.org/10.14456/jrgbsrangsit.2018.14
Keywords: การประเมินนโยบาย, แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร, เมืองน่าอยู่

Abstract

                   การวิจัยเรื่อง การประเมินผลนโยบาย/แผนพัฒนากรุงเทพมหานครสู่เมืองน่าอยู่ : แผนพัฒนาสิ่งแวดล้อม ในช่วงระยะเวลา พ.ศ. 2548 – 2558 มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาความเป็นมาของนโยบาย/แผนพัฒนากรุงเทพมหานครสู่เมืองน่าอยู่ : แผนพัฒนาสิ่งแวดล้อม (2) เพื่อประเมินผลปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลสัมฤทธิ์ ในระดับผลผลิต ผลลัพธ์ ผลกระทบ นโยบาย/แผนพัฒนากรุงเทพมหานครสู่เมืองน่าอยู่ : แผนพัฒนาสิ่งแวดล้อมในช่วงระยะเวลา พ.ศ.2548 - 2558  (3) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคและแนวทางการแก้ไขในนโยบาย/แผนพัฒนากรุงเทพมหานครสู่เมืองน่าอยู่ : แผนพัฒนาสิ่งแวดล้อม ในช่วงระยะเวลา พ.ศ.2548 – 2558 โดยการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เจาะลึก ผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำนโยบายไปปฏิบัติ และนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ในทัศนะต่างๆเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้านมลพิษทางอากาศ และด้านขยะมูลฝอย ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณ ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 447 คน แล้วรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินผลนโยบาย/แผนพัฒนากรุงเทพมหานครสู่เมืองน่าอยู่ในช่วงระยะเวลา พ.ศ. 2548 – 2558

                  ผลการวิจัยพบว่า  (1) งบประมาณยังไม่เพียงพอเนื่องจากการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลนั้นจะดูจากจำนวนประชากรที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งไม่ได้ดูถึงขนาดของพื้นที่ในแต่ละเขตที่ต่างกันและรวมถึงจำนวนประชากรแฝงและนักท่องเที่ยวด้วย (2) การจะทำให้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ประสบผลสำเร็จได้นั้น รัฐบาลควรต้องมีมาตรการทางกฎหมาย และมาตรการทางเศรษฐศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องก็จะเห็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น (3) สุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เพราะถ้าประชาชนในประเทศสุขภาพดีสิ่งต่างๆก็จะดีตาม ดังนั้น รัฐบาลควรจัดให้มีสถานที่ให้ออกกำลังกายที่สะดวก สะอาด ปลอดภัย ตามชุมชนต่างๆ อย่างเพียงพอ และเหมาะสม (4) นโยบายฯนี้จะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ถ้ารัฐบาลไม่มีการแก้ปัญหาที่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญกับประชาชนมากที่สุด เพื่อการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนต่อไป (5) นโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นนโยบายที่นำเงินเข้าประเทศเป็นหลัก ดังนั้น การจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น นอกเหนือมาเพราะความบันเทิง รัฐบาลควรเน้นด้านศิลปวัฒนธรรมของไทยให้มากขึ้น เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของประเทศที่ดีต่อไป

Published
2018-07-05