Satisfaction of Simulation-Based Learning in Palliative Care Nursing among Nursing Students in Private University, Bangkok
Main Article Content
Abstract
This descriptive study aimed to investigate nursing students' satisfaction with simulation-based learning in palliative care nursing, applying Herzberg's two-factor theory to analyze motivator factors (content and learner aspects) and hygiene factors (instructor, teaching management, and learning support aspects). The sample consisted of 48 fourth-year nursing students from a private university in Bangkok. Research instruments included a demographic questionnaire and a satisfaction assessment form with a reliability coefficient of .91. Data were analyzed using descriptive statistics.
The findings revealed that students' overall satisfaction was at the highest level (M = 4.50, SD = .13). All aspects of motivator factors were rated at the highest level, with content aspect having the highest mean score (M = 4.58, SD = .34), followed by learner aspect (M = 4.55, SD = .22). For hygiene factors, satisfaction with teaching and learning management was at the highest level, with the highest mean score (M = 4.53, SD = .25), whereas satisfaction with learning support and instructor aspects were at a high level, with mean scores of M = 4.41 (SD = .32) and M = 4.40 (SD = .25), respectively. These findings reflect that simulation-based learning effectively enhances nursing skills, confidence in practice, and clinical decision-making among nursing students.
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมด หรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ หรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. ก่อนเท่านั้น
References
จันทิมา ช่วยชุม, และยุพิน หมื่นทิพย์. (2565). ผลของการเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกโดยใช้ฐานการเรียนรู้ต่อการรับรู้ความสามารถในการปฏิบัติการพยาบาลและความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิตในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลผู้ใหญ่ 1. วารสารมหาวิทยาลัยคริสเตียน, 28(4), 1–14.
ณัฐชญา บัวละคร, และบุษบา สมใจวงษ์. (2566). ผลของโปรแกรมการดูแลแบบประคับประคองต่อผลลัพธ์ การดูแลแบบประคับประคองและคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ไม่รับการบำบัดทดแทนไต. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล, 39(3), 42–52.
นุศ ทิพย์แสนคำ. (2563). การศึกษาพยาบาลด้านการดูแลแบบประคับประคอง. วารสารเกื้อการุณย์, 27(1), 98–115.
ปนิดา พุ่มพุทธ และขวัญตา ภูริวิทยาธีระ. (2565). ผลของการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริงในการเตรียมความพร้อมของนักศึกษาพยาบาลก่อนการฝึกภาคปฏิบัติ รายวิชาปฏิบัติการพยาบาลสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช. วารสารการพยาบาลสุขภาพและการศึกษา, 5(3), 37–46.
ราชัน เกษดา, และภาวิดา ภูมิลุน. (2568). ผลของการจัดการเรียนการสอนด้วยสถานการณ์จำลองเสมือนจริงต่อความสามารถในการแก้ปัญหาทางการพยาบาลและทัศนคติในการดูแลผู้ป่วยประคับประคองของนักศึกษาพยาบาล. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ, 29(1), 102-115.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2545). ทฤษฎีการประเมิน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศิราวัลย์ เหรา, และเจษฎาภรณ์ อิกำเหนิด. (2568). ผลการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์เสมือนจริง ต่อความสามารถในการใช้กระบวนการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาล. วารสารการพยาบาล สุขภาพ และสาธารณสุข, 4(1), 1–10.
ศุภวรรณ ใจบุญ, ธิราภรณ์ จันทร์ดา, และบัวหลวง สำแดงฤทธิ์. (2564). ความรู้และการรับรู้สมรรถนะในการดูแลแบบประคับประคองของพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ทำงานน้อยกว่า 2 ปี ในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ. วารสารเกื้อการุณย์, 28(1), 82–93.
สมจิตต์ สินธุชัย, กันยารัตน์ อุบลวรรณ, และสุนีย์รัตน์ บุญศิลป์. (2560). ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริงต่อความรู้ความพึงพอใจ และความมั่นใจในตนเองของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4 ในการฝึกปฏิบัติรายวิชาฝึกทักษะทางวิชาชีพก่อนสำเร็จการศึกษา. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 23(1), 113–127.
สุภัทรา สีเสน่ห์, จักรพันธ์ กึนออย, ศิริกุล การุณเจริญพาณิชย์, และสมคิด รูปงาม. (2565). ผลการจัดการเรียนรู้ด้วยสถานการณ์จำลองเสมือนจริงต่อความรู้ การตัดสินใจทางคลินิกและทักษะการปฏิบัติการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันระยะวิกฤติ: กรณีศึกษา. วารสารวิจัยการพยาบาลและสุขภาพ, 23(1), 123–133.
อัญพัชญ์ วิวัฒน์กมลชัย, พรรณณิภา ต่อมดวงแก้ว, ปวีณา ยศสุรินทร์, และสมพร สิทธิสงคราม. (2567). ผลของการเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกภาคปฏิบัติโดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริงเป็นฐานการเรียนรู้ต่อความมั่นใจในด้านความรู้ ทักษะปฏิบัติ และเจตคติของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2. วารสารวิจัยการพยาบาลและการสาธารณสุข, 4(3), 1–18.
Alwawi, A., & Inkaya, B. (2022). The effect of two different simulation modalities in palliative care teaching on nursing students' knowledge, satisfaction, self-confidence, and skills: A randomized controlled trial. CIN: Computers, Informatics, Nursing, 41(4), 246-257. doi: 10.1097/CIN.0000000000000965
Gillan, P. C., & Johnston, S. (2024). Nursing students satisfaction and self-confidence with standardized patient palliative care simulation focusing on difficult conversations. Palliative and Supportive Care, 22(5), 1237–1244. doi: 10.1017/S1478951523001918
Herzberg, F., Mausner, B., & Snyderman, B. B. (1959). The motivation to work (2nd. ed.). New York, NY: John Wiley & Sons.
World Health Organization [WHO]. (2020). Palliative care. Retrieved June 5, 2025, from https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/palliative-care
Zhang, L., Huang, Y.-L., Wu, X.-Q., Liu, C.-Y., Zhang, X.-L., Yang, X.-Y., ... Yang, M.-F. (2024). The impact of virtual clinical simulation on nursing students’ palliative care knowledge, ability, and attitudes: A mixed methods study. Nurse Education Today, 132, 106037. doi: 10.1016/j.nedt.2023.106037