ผลลัพธ์การคลอดของสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงในโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
##plugins.themes.bootstrap3.article.main##
Abstract
ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์ และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของมารดา และทารกที่สำคัญ การวิจัยย้อนหลังครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลลัพธ์ของภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ที่มีต่อมารดาและทารก กลุ่มตัวอย่าง คือ ข้อมูลของสตรีตั้งครรภ์ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะความดันโลหิตสูงชนิด preeclampsia และมารับบริการในแผนกห้องคลอด โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากเวชระเบียนของโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ระหว่างปี พ.ศ. 2560-2562 รวมทั้งหมด 359 ราย แบ่งเป็น ความดันโลหิตสูงชนิด preeclampsia without severe features 140 ราย (39.0%) preeclampsia with severe features 214 ราย (59.6%) และ eclampsia 5 ราย (1.39%) เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบบันทึกข้อมูลที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ข้อมูลส่วนบุคคล และแบบบันทึกข้อมูลทางสูติกรรม ตรวจสอบความตรงทางเนื้อหา (CVI) มีค่าเท่ากับ 1.0 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบไคสแคว์
ผลการศึกษา พบว่า ผลลัพธ์ต่อการคลอดของสตรีตั้งครรภ์ที่มีความดันโลหิตสูงมีการคลอดโดยวิธีผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องมากที่สุด 263 ราย (73.3%) ด้านทารก พบว่า คะแนน APGAR นาทีที่ 1 และ 5 มากกว่าหรือเท่ากับ 7 จำนวน 312 และ 337 ราย ตามลำดับ (86.9% และ 93.9%) มีน้ำหนักแรกคลอดมากกว่าหรือเท่ากับ 2,500 กรัม 232 ราย (64.6%) ชนิดของความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์มีความสัมพันธ์กับคะแนน APGAR นาทีที่ 1 และ นาทีที่ 5 (c 2=8.956, p=.003; c 2=4.268, p=.039 ตามลำดับ) และน้ำหนักทารกแรกคลอดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (c 2=50.906, p=.000) จากผลของการศึกษาเห็นได้ว่า ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ส่งผลต่อการเพิ่มอัตราการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง รวมทั้งมีผลต่อน้ำหนักทารกแรกคลอดและภาวะขาดออกซิเจนของทารกแรกเกิด ดังนั้นพยาบาลจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมและวางแผนการพยาบาลเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนแก่มารดา และทารก
##plugins.themes.bootstrap3.article.details##

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมด หรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ หรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. ก่อนเท่านั้น
References
จิตณัฏฐา สุทธิจำนงค์, ศศิกานต์ กาละ, และสุรีย์พร กฤษเจริญ. (2559). ความต้องการการพยาบาลของหญิงตั้งครรภ์ภาวะความดันโลหิตสูงขณะรับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อก้าวข้ามภาวะวิกฤต. วารสารวิทยาลัยพยาบาลสงขลานครินทร์, 36(ฉบับพิเศษ กันยายน-ธันวาคม 2559), 132-144.
ฉวี เบาทรวง. (2561). การพยาบาลสตรีที่มีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์. ใน นันทพร แสนศิริพันธ์ และฉวี เบาทรวง (บ.ก.), การพยาบาลและการผดุงครรภ์: สตรีที่มีภาวะแทรกซ้อน (น. 35-58). เชียงใหม่: บริษัทสมาร์ทโค้ดติ้ง แอนด์เซอร์วิสจำกัด.
ชุติมา ไตรนภากุล. (2560). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยในโรงพยาบาลราชบุรี. วารสารแพทย์ เขต 4-5, 36(2), 79-87.
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย. (2563). แนวทางเวชปฏิบัติของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การดูแลความดันโลหิตสูงในสตรีตั้งครรภ์ (ฉบับสรุปคำแนะนำ). สืบค้น 6 กุมภาพันธ์ 2566, จาก www. rtcog. or.th/photo/cpg/OB-63-021_summary.pdf
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย. (2565). แนวทางเวชปฏิบัติราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ฉบับครบรอบ 50 ปี ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศ (นิพนธ์และเรียบเรียงครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: บริษัท พี.เอ.ลีฟวิ่ง จำกัด.
รำไพ เกตุจิระโชติ, พร้อมจิตร ห่อนบุญเหิม, รัตติยา ทองสมบูรณ์, และสุภาพร สุภาทวีวัฒน์. (2560). ผลลัพธ์การตั้งครรภ์ในสตรีที่มีภาวะความดันโลหิตสูงจากการตั้งครรภ์ที่คลอดในโรงพยาบาลมหาสารคาม. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 35(4), 104-112.
วิลาวัณ ทรงยศ. (2565). ผลลัพธ์การตั้งครรภ์ในสตรีที่มีความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์. สืบค้น 5 มกราคม 2566, จาก https://www.vachiraphuket.go.th/articles/research/pregnancy-outcomes-in-women-with-gestational-hypertension/
สำนักงานส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย. (2563). การเฝ้าระวังการตายมารดาไทย ปีงบประมาณ 2563. สืบค้น 3 มกราคม 2566, จาก
https://hp.anamai.moph. go.th/th/maternal-mortality-ratio/download?id=79052&mid=30954&mkey=m_document&lang=th&did=24018
สุพัตรา ศิริโชติยะกุล และธีระ ทองสง. (2564). ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์. ใน ธีระ ทองสง (บ.ก.). สูติศาสตร์ (น. 293-307). พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: ลักษมีรุ่ง.
Charles, A., Victor, P., Jonathan, K., & Ishaya, P. (2017). Eclampsia and pregnancy outcome at Jos University teaching Hospital, Jos, Plateua State, Nigeria, Journal of Gynecology and Obstetrics, 5(4), 46-49.
Cunningham, F. G., Leveno, K. J., Dashe, J. S., Hoffman, B. L., Spong, C. Y., & Casey, B. M. (2022). William obstetrics (26th ed). New York: McGraw-Hill Education.
Ford, N. D., Cox, S., Ko, J. Y., Ouyang, L., Romero, L., Colarusso, T., . . . Barfield, W. D. (2022). Hypertensive disorders in pregnancy and mortality at delivery hospitalization – United States, 2017-2019. Morbidity and Mortality Weekly Report, 71(17): 585-591. Doi: 10.15585/mmwr.mm7117a1
Youssef, G.S. (2019). Hypertension in pregnancy. Retrieved May 5, 2023, from http://www.escardio.org/Journals/E-Journal-of Cardiology-Practice/Volume-17/hypertension in pregnancy
##plugins.generic.recommendByAuthor.heading##
- ปาริชาติ เทวพิทักษ์, ขนิตฐา หาญประสิทธิ์คำ, รัชนี นามจันทรา, ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยรังสิต , วารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท.: Vol 6 No 3 (2024): September - December