Factors Affecting Health Behaviors for Cardiovascular Disease Prevention among Support Staff in Rangsit University
Main Article Content
Abstract
This predictive research aimed to investigate health behaviors for cardiovascular disease (CVD) prevention and their predictive factors among support staff of Rangsit University, using Pender’s health promoting model as a conceptual framework. The 163-support staff who participated in the annual health checkup in 2022 were recruited by simple random sampling. Research instruments comprised a questionnaire with eight parts: personal data record, perceived benefit, perceived barriers, perceived self-efficacy, activity-related affect, social support, situation influences, and health behaviors for CVD prevention. Data were analyzed using descriptive statistics and stepwise multiple regression.
The finding showed that the health behaviors for cardiovascular disease prevention were at a moderate level (M=42.36, SD=6.64). Regarding the 4 aspects of health behaviors, the dietary habits and exercise behaviors were at a moderate level (M=20.60, SD=4.27 and M=5.49, SD=1.28, respectively). In contrast, health responsibility and stress management behaviors were rated at a high level (M=13.12, SD=2.40; M=3.15, SD=0.79, respectively). The highest predictive coefficients for cardiovascular disease prevention behaviors included self-efficacy (β=.471, p < .001) and activity-related affect (β=.218, p< .01). These two factors accounted for 39.5% of the variation in health behaviors for CVD prevention among support staff (R2=.395, p < .001).
Based on the study findings, the university should organize educational activities and skill training to enhance personnel’s self-efficacy in preventing cardiovascular disease. Additionally, it should implement activities that foster positive feelings toward health behaviors, especially dietary habits and exercise behaviors.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมด หรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ หรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท. ก่อนเท่านั้น
References
กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2566). คู่มือการดูแลสุขภาพตามหลัก 3อ.2ส.สำหรับแกนนำสุขภาพ. สืบค้น 3 กุมภาพันธ์ 2567, จาก https://hed.go.th/wp-content/uploads/2024/05/คู่มือการดูแลสุขภาพตามหลัก-3อ.2ส.-สำหรับแกนนำสุขภาพ.pdf
คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี. (2558). Thai CV risk score. สืบค้น 3 ตุลาคม 2566, จาก https://www.rama.mahidol.ac.th/cardio_vascular_risk/thai_cv_risk_score/#regat2
จริยา ทรัพย์เรือง, บุบผา วิริยรัตนกุล, และพัชรินทร์ สังวาลย์. (2564). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของผู้รับบริการกลุ่มวัยทำงานที่มีภาวะเมตาบอลิกซินโดรม. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(8), 386-99.
จุฬาลักษณ์ ฟักแก้ว, วราภรณ์ บุญเชียง, และพนิดา จันทโสภีพันธ์. (2562). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของชายวัยทองในชุมชน. พยาบาลสาร, 46(3), 130-141.
ฉัตรกมล ประจวบลาภ, และดวงกมล วัตราดุลย์. (2563). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองในหญิงวัยหมดประจำเดือน. วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก, 31(1), 27-45.
ชนิดา พุทธเมธา, รัชนี นามจันทรา, และขนิตฐา หาญประสิทธิ์คำ. (2565). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ในการปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพ แรงสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในบุคลากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง. วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก, 33(1), 183-200.
ณฐินี พงศ์ไพฑูรย์สิน, อภิชา น้อมศิริ, และงามจิต คงสุพล. (2563). พฤติกรรมสุขภาพ (3อ.2ส.) และแนวทางการจัดการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับบุคลากรสายสนับสนุน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 3(2), 95-108.
ณรงค์กร ชัยวงศ์, และปัณณทัต บนบุนทด. (2562). ปัจจัยทํานายพฤติกรรมการป้องกันโรคในบุคคลที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 37(2), 6-15.
นพวรรณ ธีระพันธ์เจริญ. (2562). ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดของบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 28(ฉบับพิเศษ), 137-145.
พิภพ ดีแพ, กมลทิพย์ ขลังธรรมเนียม, และนพนัฐ จำปาเทศ. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานร่วมกับความดันโลหิตสูง ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล, 35(3), 46-57.
พิมลพรรณ ดีเมฆ, และศิริพร เงินทอง. (2562). พฤติกรรมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. ในการประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 6. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, กำแพงเพชร: อาคารนวัตกรรมทางการศึกษา คณะครุศาสตร์.
ไวริญจน์ เปรมสุข, รัตน์ศิริ ทาโต, และระพิณ ผลสุข. (2562). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจของชายวัยกลางคน ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารเกื้อการุณย์, 26(1), 24-39.
สุกัญญา บุญวรสถิต, พรนภา หอมสินธุ์, และรุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์. (2559). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของข้าราชการสังกัดกรมราชทัณฑ์ในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 11(1), 52-62.
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี. (2563). รอบรู้เรื่องโรคและภัยสุขภาพ: สคร.6 ชลบุรี ชวนปกป้องหัวใจในวันหัวใจโลก. สืบค้น 3 ตุลาคม 2566, จาก https://ddc.moph.go.th/odpc6/news.php?news=14902&deptcode=odpc6&news_views=265
สำนักงานสวัสดิการสุขภาพ มหาวิทยาลัยรังสิต. (2563). รายงานสถิติสุขภาพบุคลากร มหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ.2563. มหาวิทยาลัยรังสิต. (เอกสารไม่มีการตีพิมพ์)
สำนักงานสวัสดิการสุขภาพ มหาวิทยาลัยรังสิต. (2564). รายงานสถิติสุขภาพบุคลากร มหาวิทยาลัยรังสิต พ.ศ.2564. มหาวิทยาลัยรังสิต. (เอกสารไม่มีการตีพิมพ์)
สมาคมเครือข่ายโรคไม่ติดต่อไทย. (2564). แนวทางการป้องกันโรค NCDs สำหรับบุคลากรทางการแพทย์. สืบค้น 3 ตุลาคม 2566, จาก https://online.fliphtml5.com/sowyx/iudw/#p=2
สวณีย์ ศรีเจริญธรรม, สุนทร ศุภพงษ์, ธนะภูมิ รัตนานุพงศ์, วิชัย เอกพลากร, และปริญญ์ วาทีสาธกกิจ. (2562). ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดระหว่างพนักงานในสำนักงานและพนักงานที่ใช้แรงงานขององค์กรแห่งหนึ่ง. Chulalongkorn Medical Bulletin, 1(1), 27-36.
Bays, H. E., Taub, P. R., Epstein, E., Michos, E. D., Ferraro, R.A., Bailey, A.L., . . . Toth, P. P. (2021). Ten things to know about ten cardiovascular disease risk factors. American Journal of Preventive Cardiology, 5, 100149. doi:10.1016/j.ajpc.2021.100149
Mohsenipoua, H., Majlessi, F., Shojaeizadeh, D., Rahimiforooshani, A., Ghafari, R., & Habibi, V. (2016). Predictors of health-promoting behaviors in coronary artery bypass surgery patients: An application of Pender’s Health Promotion Model. Iranian Red Crescent Medical Journal, 18(9), e38871. doi: 10.5812/ircmj.38871
Murdaugh, C. L., Parsons, M. A, & Pender, N. J. (2019). Health promotion in nursing practice (8th ed.). New Jersey, USA: Pearson Education Inc.
Roth, G. A., Abate, D., Abate, K. H., Abay, S. M., Cristina, A., Nooshin, A., … Murray, C. J. L. (2018). Global, regional, and national age-sex-specific mortality for 282 causes of death in 195 countries and territories, 1980–2017: A systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2017. Lancet, 392, 1736–1788. doi:http://doi.org/10.1016/S0140-6736(18)32203-7
Virani, S. S., Alvaro, A., Benjamin, E. J., Bittencourt, M. S., Callaway, C. W., Carson, A. P., . . . Tsao, C. W. (2020). Heart disease and stroke statistics 2020 update: A report from the American Heart Association. Circulation, 141(9), e139-e596. doi:10.1161/CIR.0000000000000757
Most read articles by the same author(s)
- อาณัติ วรรณะ, นิภา กิมสูงเนิน, รัชนี นามจันทรา, Perceptions and Management of Warning Signs among Persons at Risk of Stroke , APHEIT Journal of Nursing and Health: Vol 2 No 1 (2020): January-April
- ปราณี ทัดศรี, ปรางค์ทิพย์ อุจะรัตน, ขนิตฐา หาญประสิทธิ์คำ, จุฬาลักษณ์ อินทะนิล, กันยนา มีสารภี, Associations of Health Literacy to Health Promoting Behaviors in Older Adults with Hypertension , APHEIT Journal of Nursing and Health: Vol 5 No 1 (2023): January - April
- ไพลิน แช่มเจริญ, ภัทรวดี ผลโภค, ปาริชาติ เทวพิทักษ์, Delivery Outcomes of Pregnancy Women with Preeclampsia at Nopparat Rajathanee Hospital , APHEIT Journal of Nursing and Health: Vol 5 No 3 (2023): September-December
- นันทนัช ภาณุศรี, รัชนี นามจันทรา, ขนิตฐา หาญประสิทธิ์คำ, Effects of Combination of Self-care Promoting Program and Oral Ginger Capsule on Self-care Ability and Chemotherapy-induced Nausea and Vomiting in Breast Cancer Patients , APHEIT Journal of Nursing and Health: Vol 6 No 1 (2024): January - April
- นันท์ชฉัตร โชติตันติไพศาล, รัชนี นามจันทรา, วารินทร์ บินโฮเซ็น, Effectiveness of Promoting Self- Care Ability Program on Self-Care Behavior, Functional Ability, and Readmission in Patients with Heart Failure , APHEIT Journal of Nursing and Health: Vol 6 No 3 (2024): September - December