แนวทางการแก้ปัญหาอัตราการเติบโตที่ลดลงของปริมาณเงินฝากธนาคารออมสิน
Abstract
การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสาเหตุที่มีผลกระทบต่อปริมาณเงินฝากของธนาคารออมสิน เพื่อศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการระดมเงินฝากของธนาคารออมสิน โดยนำปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix : 7P’s) มาศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ ข้อมูลที่ใช้ศึกษาเป็นข้อมูลปฐมภูมิ จากการใช้แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 ชุด และการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างจากหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับข้อมูลทุติยภูมิ ประเภทอนุกรมเวลา รายเดือน จากข้อมูลปริมาณเงินเงินฝากของธนาคารออมสินตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2557 - ธันวาคม พ.ศ. 2561 เป็นจำนวน 60 เดือน
ผลการศึกษาพบว่า ปริมาณเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ และเงินฝากประจำลดลง เนื่องจากมีการครบกำหนดระยะเวลาในการฝากเงิน และลูกค้าไม่ได้นำเงินมาฝากกับเงินฝากประเภทดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จากการที่ไม่มีตู้เอทีเอ็มและตู้ฝากเงิน-ปรับสมุด ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการขายที่น่าสนใจ บวกกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2557-2561 ที่ไม่ได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับในปัจจุบันลูกค้ามีทางเลือกในการลงทุนที่มากขึ้นผู้ลงทุนจึงเลือกที่จะลงทุนกับสถาบันการเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า ดังนั้น ธนาคารออมสินจึงต้องหาแนวทางในการเพิ่มปริมาณเงินฝากโดยการเลือกจัดทาสื่อประชาสัมพันธ์ เรื่อง พรบ.ธนาคารออมสิน มาตรา 21 หมวดความมั่นคงและหลักประกัน ระบุว่า “รัฐบาลจะค้าประกันเงินฝากของธนาคารออมสิน 100%” เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้ฝากเงิน และทำให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจในการนาเงินมาฝากไว้กับธนาคารโดยหมดความกังวลเรื่องการสูญหายไปได้ และผู้ลงทุนไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในการนาเงินมาลงทุนในธนาคารออมสิน ซึ่งการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เป็นการส่งเสริมการตลาดที่มีบทบาทสำคัญสำหรับการทำการตลาด เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าและทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีการจัดทำแผนการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์และขอความเห็นชอบและอนุมัติจากคณะกรรมการ เพื่อจัดทำรายละเอียดในการจัดจ้างและขออนุมัติจัดจ้างบริษัทให้ดำเนินการตามแผน พร้อมทั้งติดตามผลการดำเนินงานและประเมินผลดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
- บทความทุกเรื่องที่ตีพิมพ์เผยแพร่ได้ผ่านการพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชา (Peer review) ในรูปแบบไม่มีชื่อผู้เขียน (Double-blind peer review) อย่างน้อย ๓ ท่าน
- บทความวิจัยที่ตีพิมพ์เป็นข้อค้นพบ ข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนเจ้าของผลงาน และผู้เขียนเจ้าของผลงาน ต้องรับผิดชอบต่อผลที่อาจเกิดขึ้นจากบทความและงานวิจัยนั้น
- ต้นฉบับที่ตีพิมพ์ได้ผ่านการตรวจสอบคำพิมพ์และเครื่องหมายต่างๆ โดยผู้เขียนเจ้าของบทความก่อนการรวมเล่ม